ผู้ไม่ละความเพียร หมั่นเรียนรู้ ย่อมถึงซึ่ง ความเป็นพหูสูตร ขอบทความทั้งหลายในนี้ จงเป็นจุดกำเนิดนักโหรา

การทายเลขเจ็ดตัว

หลักการทาย

* จำความหมายดาว 10 ดวงได้
* ผูกดวง จากวันเดือนปีเกิดได้
* จำเรือนชะตา ทั้ง 21 เรือนได้
* รู้จักธาตุ ของดาวแต่ละดวง
* ทายเรือนชะตาผสมเรือนชะตา
* ทายเรือนชะตาผสมดาว
* ทายเรือนชะตาผสมธาตุของดาว

ตัวอย่างดวงชะตา เกิดวัน พฤหัสบดี เดือน 11 ปี เถาะ

5….6….7….1….2….3….4
4….5….6….7….1….2….3
3….4….5….6….7….1….2
====================
12.15..18..14..10….6…9
====================

ในการทายนั้น ถ้าไม่มีหลักการทาย จะทำให้เราติดขัด ไม่รู้จะทายอะไร โดยเฉพาะผู้ที่หัดดูดวง ใหม่ ๆ ถ้าอยู่ต่อหน้า คนมาดูดวง จะ อึกอักพูดไม่ออก ในการทายนั้น เบื้องต้น ให้ทาย 5 เรื่อง ก่อน คือ

1. ตัวตนของเจ้าชะตา ใช้เรือน อัตตะ-ตนุ ในการทาย
2. การเงิน ใช้เรือน กะดุมพะ-ธานัง ในการทาย
3. การงาน ใช้เรือน การงาน-ลาภะ ในการทาย
4. ความรัก ชีวิตคู่ ใช้เรือน ปัตนิ ในการทาย
5. สุขภาพ ใช้เรือน พยายะ-มรณะ ในการทาย

จากดวงตัวอย่าง ดูตัวตนของเข้าชะตา คือ อัตตะ-ตนุ ถ้าเราสามารถเห็นรูปร่างหน้าตาของเจ้าของดวง ให้ ดูว่ารูปร่าง เจ้าของดวงตรงกับตำแหน่งใด เช่น ในดวงนี้ ตำแหน่งอัตตะเป็นดาว พฤหัสบดี (5) ลักษณะรูปร่างตามดาวคือ ขาวท้วม ดูภูมิฐาน อีกตัวคือตำแหน่ง ตนุ ในดวงนี้เป็นดาวพุธ (4) รูปร่างตามลักษณะดาวคือ มะขามข้อเดียว ไม่สูง อกเอวเท่ากัน หน้าตาดี ถ้าเจ้าของดวง มีรูปร่างแบบไหน แสดงว่าดาวดวงนั้นมีอิทธิพล ต่อเจ้าของดวงชะตามาก อย่างดวงนี้ เจ้าของดวงรูปร่าง ขาวท้วม ซึ่งตรงกับเรือนอัตตะ ดางพฤหัสบดี (5) สามารถทายได้ดังนี้

1. ทายเรือนผสมดาว อัตตะ+ดาวพฤหัส เจ้าของดวงเป็นคน ฉลาด สติปัญญาดี มีคุณธรรม ตามความหมายดาว
2. ทายเรือนผสมธาตุดาว อัตตะ+ธาตุดิน เจ้าของดวงเป็นคน สุขุม อารมณ์มั่นคง ตามธาตุของดาว
3. ทายเรือนผสมเรือน ในการทายผสมเรือนนั้น ถ้าคนที่เรียนใหม่ หรืออ่านตำราหลายเล่มอาจจะสับสนไม่รู้จะทายอย่งไร เพราะ ในดวงมีเรือนชะตาที่สัมพันธ์กันทั้ง สามเรือน บางอาจารย์ ก็ทายควบสามเรือนและแปลความหมายออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากถ้าประสบการณ์ไม่เพียงพอ จึงแนะนำให้ใช้เพียงสองเรือนผสมกัน

อย่างดวงนี้ สามารถผสมเรือนได้ สองคู่คือ อัตตะ-กะดุมพะ อัตตะ-ศุภะ ส่วน กะดุมภะ-ศุภะ เป็นเรื่องของ การเงินและวาสนา ไม่ใช่เรื่องตัวตนจึงไม่ทายในที่นี้ อย่าสับสน (อัตตะ-กะดุมภะ คือ มีโชคลาภ มีทรัพย์ การเงินดี) (อัตตะ-ศุภะ คือ มีวาสนาดี มีความเจริญ) ซึ่งจะเห็นว่าการทายแยกแบบนี้จะมองเห็นรูปดวงได้ชัดเจน สามารถที่จะประมวลคำพยากรณ์ได้ง่าย

ตัวอย่างดวงนี้ ถ้าดูอย่างครบกระบวนการ ก็สามารถทายได้ว่า เจ้าชะตา เป็นคน ปัญญาดีมีคุณธรรม ใจคอหนักแน่น มีวาสนาการเงินดี มีโชคลาภ แค่นี้ก็ได้รายละเอียดที่มากพอแล้ว ในระยะฝึกอ่านดวง ยังไม่ต้องไปคำนึงเรื่องความแม่นยำมาก ให้อ่านดวงออกก็พอ แค่เห็นตัวเลขที่ผูกดวง ก็สามารถตีความหมายออกมาได้ จึงจะถือว่าอ่านดวงออก ส่วนเรื่องความแม่นยำ ประสบการณ์จะสอนเราเองเมื่อดูดวงไป หลาย ๆ ดวง

ต่อมาลองมาดูเรื่องการงานบ้าง ในดวงนี้ การงานคือดาว ศุกร์ (6) ตกตำแหน่ง (กัมมะ-สหัสชะ คือ งานต้องพบปะผู้คน และมีการเดินทางไปติดต่อ)( กัมมะ-หายนะ คือ งาน เกี่ยวกับ อบายมุข การพนัน ตามความหมายของ หายนะ) สามารถทายได้ว่า การงานของเจ้าชะตา ต้องเกี่ยวข้องกับอบายมุข การพนัน และต้องพบปะผู้คนตลอดเวลา*** อย่าทายว่า การงานไม่เจริญตกต่ำ เอาดีไม่ได้ เหมือนหลายคนที่ทายแบบนี้เพราะเห็นกัมมะตกหายนะ จะผิดพลาดได้ ความจริงเจ้าของดวงมีอาชีพ ขายหวยใต้ดิน ซึ่งตรงตามลักษณะดวงชะตา และก็ขายดี ตามวาสนา ข้อแรก (อัตตะ-ศุภะ) ได้เงินเป็นกอบเป็นกำตามดวง (อัตตะ-กะดุมพะ)

ข้อต่อไปลองมาดูเรื่องการเงิน ในดวงนี้ตกตำแหน่ง (กะดุมพะ-อัตตะ คือ การเงินเกิดจากตัวเอง ความสามารถตัวเอง เรือนชะตาเดียวกับ [อัตตะ-กะดุมภะ] แต่ทายคนละอย่าง เพราะจุดของเรื่องราวคนละจุดกัน คือ ต้นทาง-ปลายทางไม่เหมือนกัน อย่าสับสน หลายคน ทายมั่วเพราะไม่จับจุด เรื่องราว ต้นทางปลายทาง) อีกตัวคือ (กะดุมพะ-ศุภะ คือ การเงินเกิดจากวาสนา บุญกุศล แต่ถ้าเป็น ศุภะ-กะดุมพะ จะทายว่า วาสนาความเจริญที่จะได้รับ เป็นเรื่อง การเงิน ทรัพย์สิน )

การทายต้องอย่าลืม ตั้งจุดทายให้ถูกต้องอย่าทายสับสนปนเป การทายดาวถ้าจะให้แตกฉาน ให้ใช้ดวงตัวเองดูก่อน เมื่อคล่องแล้วจึงใช้ของ พี่น้อง ญาติ หรือเพื่อน ๆ นาน ๆ เข้าจะชำนาญเอง และสามารถหาอ่านบทวิจารณ์ดวงเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไม่แนะนำให้เรียนโดยการท่องจำ การผสมเรือนต่าง ๆ เพราะจะทำให้ไม่แตกฉาน แต่ให้ใช้การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ดวงดาวและเรือนชะตา จะทำให้ประสบผลสำเร็จ

You can leave a response, or trackback from your own site.

Leave a Reply

*
Free Web Hosting