ผู้ไม่ละความเพียร หมั่นเรียนรู้ ย่อมถึงซึ่ง ความเป็นพหูสูตร ขอบทความทั้งหลายในนี้ จงเป็นจุดกำเนิดนักโหรา

Posts Tagged ‘ผูกดวง เลข 7 ตัว’

ผูกดวงเลข 7 ตัว

เกริ่นนำ

การพยากรณ์ ด้วยเลขเจ็ดตัวนับเป็นวิชาที่เรียนเข้าใจง่ายกว่า วิชาผูกดวงชั้นสูงอย่าง ดวงราศีจักร แต่ความแม่นยำ ถือว่าไม่น้อยหน้ากัน สำหรับผู้เริ่มศึกษาดูดวงใหม่ ๆ มักจะคิดว่าเลขเจ็ดตัวเป็นวิชาพื้น ๆ สู้โหราศาสตร์ไม่ได้ บางคนถึงกับยกย่องโหราศาสตร์ต่างประเทศ ว่าดีกว่า แต่ผมเชื่อว่า สุดท้ายเมื่อถึงทางตันในการพยากรณ์ เกือบทุกคนต้องหันมาจับวิชาเลข 7 ตัวจนได้ บางอย่างโหราศาสตร์ก็ดูได้ละเอียดดี แต่บางครั้งเลข 7 ตัวก็ดูได้ดีกว่า เพียงแต่เลขเจ็ดตัว ผู้ดูต้องรอบรู้วิชา เบ็ดเตล็ด หลายอย่าง เช่น ทักษา กาลโยค ดาวเสวยอายุ การจับยาม

แรกเริ่มผม ก็ตามกระแสด้วยการเรียนโหราศาสตร์ ดวงราศีจักร ดวงนวางค์จักร อินทภาสบาทจันทร์ แต่มีความรำคาญเรื่อง ต้องมีเวลาเกิดที่แน่นอน ถึงแม้จะดูโดยไม่ใช้เวลาเกิดได้ แต่ผมว่าเล็ขเจ็ดตัวมีความยืดหยุ่นกว่าหากดูโดยไม่ใช้เวลาเกิดที่แน่นอน ได้ทดลองหลายศาสตร์จนค้นพบว่า ตัวเองถูกโฉลกกับ วิชาเลขเจ็ดตัว ประกอบมหาทักษาเสวยอายุ ทักษาไทย และกาลโยคแบบพม่า ซึ่งผมคิดว่า คนแต่ละคนมีพรสวรรค์ไม่เหมือนกัน

บางคนเรียนโหราศาสตร์จนเชี่ยวชาญในหลักวิชา แต่พยากรณ์จริงกับไม่ได้ผลเท่าที่ควร บางคนใช้เลขเจ็ดตัวพยากรณ์กับไม่แม่นยำเหมือนโหราศาสตร์ราศีจักร บางคนแค่จับยามก็ดูได้แม่นยำพิศดาร เหตุที่ผมกลับมาเรียนเลขเจ็ดตัวส่วนหนึ่งเพราะความทึ่งในตัวหมอดูชาวบ้านธรรมดา มีคนมาขอให้ทายเรื่องคนจมน้ำหาศพไม่เจอ เขาบอกว่าอีกสามวันให้ไปรอที่ใต้น้ำถัดไปสองหมู่บ้าน ปรากฎว่าศพขึ้นตรงตามที่บอกจริง ๆ ผมไม่ทราบว่าเขาใช้อะไรทายแต่คิดว่าน่าจะเป็นการจับยาม ประกอบเลขเจ็ดตัว เพราะหมอดูคนนี้ดูเล็ขเจ็ดตัวเป็นหลัก

เกริ่นตั้งยืดยาวที่จริงก็เล่าสู่กันฟัง ต่อมาเป็นเรื่องของการผูกดวงด้วยเลข 7 ตัว จะไม่อธิบายละเอียดมากเอาแต่ที่สำคัญโดยการดูดวงระบบนี้มีหลักที่ต้องสนใจอยู่สามข้อคือ

1. ต้องรู้จักความหมายดาวเป็นอย่างดี ในระยะเริ่มแรกให้จำความหมายจำเพาะดาวก่อน ส่วนอื่นก็อ่านเพิ่มเติมทีหลัง

2. ต้องผูกดวงเป็น โดยอาศัย วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดเพื่อจะดูว่าเกิดวันไหนแน่ การกำหนดวันเกิดต้องใช้หลักโบราณคือ ถือเวลา รุ่งเช้าเป็นวันใหม่ ประมาณหกโมงเช้า ไม่ใช่เวลาเที่ยงคืนเหมือนที่ทางสากลใช้ คนที่เกิดช่วงเวลา 00.01-05.59 ถือเป็นวันเก่าแม้ทางราชการจะแจ้งในใบเกิดเป็นวันใหม่แล้ว แต่ไม่สามารถใช้กับการดูดวงได้เพราะอาจทำให้การดูดวงผิดไปคนละเรื่องเลย ที่สำคัญการตั้งชื่ออาจทำให้มีอักษรกาลกิณีโดยไม่ตั้งใจ สมมุติว่า เกิดเวลา 03.25 น. ซึ่งทางราชการลงวันเกิดไว้เป็นวัน อาทิตย์ ในการดูดวงจะยังคงเป็นวันเสาร์อยู่เพราะยังไม่ถึงหกโมงเช้านั่นเอง

3. การทายดวงกำเนิดหรือพื้นดวง และ การทายอนาคตหรือดวงจร

วิธีการผูกดวงการผูกดวง

ในการผูกดวงต้องมีปฏิทิน 100 ปี หรือ 150 ปี ก็ได้เพื่อจะดู ค่ำแรม วันเกิด ที่แน่นอนซึ่งสามารถหาซื้อตามร้านหนังสือชั้นนำหรือ ร้านเขษมบรรณกิจที่จำหน่ายตำราดูดวงโดยเฉพาะ ซึ่งการผูกดวงประกอบไปด้วย

หลักวันเกิด [อาทิตย์ ถึงวัน เสาร์]

วันอาทิตย์เรียงเลข     1  2  3  4  5  6  7

วันจันทร์เรียงเลข       2  3  4  5  6  7  1

วันอังคารเรียงเลข       3  4  5  6  7  1  2

วันพุธเรียงเลข           4  5  6  7  1  2  3

วันพฤหัสบดีเรียงเลข   5  6  7  1  2  3  4

วันศุกร์เรียงเลข          6  7  1  2  3  4  5

วันเสาร์เรียงเลข          7  1  2  3  4  5  6

หลักเดิอนเกิด [ใช้เดือนไทย จากเดิอนอ้าย เดือนยี่......ไปจนถึงเดือน 12 ]

เดือน อ้ายและเดือนแปด เรียงเลข    1  2  3  4  5  6  7

เดือน ยี่และเดือนเก้า เรียงเลข         2  3  4  5  6  7  1

เดือน สามและเดือนสิบ เรียงเลข      3  4  5  6  7  1  2

เดือน สี่และเดือนสิบเอ็ด เรียงเลข     4  5  6  7  1  2  3

เดือน ห้าและเดือนสิบสอง เรียงเลข   5  6  7  1  2  3  4

เดือน หก เรียงเลข                       6  7  1  2  3  4  5

เดือน เจ็ด เรียงเลข                       7  1  2  3  4  5  6

หลักปีเกิด [ใช้ปีนักษัตริย์แบบไทยคือ ชวด ถึง กุน]

ปีชวดกับปีมะแม เรียงเลข             1 2 3 4 5 6 7

ปีฉลูกับปีวอก เรียงเลข                2 3 4 5 6 7 1

ปีขาลกับปีระกา เรียงเลข              3 4 5 6 7 1 2

ปีเถาะกับปีจอ เรียงเลข                4 5 6 7 1 2 3

ปีมะโรงกับปีกุน เรียงเลข               5 6 7 1 2 3 4

ปีมะเส็ง เรียงเลข                        6 7 1 2 3 4 5

ปีมะเมีย เรียงเลข                         7 1 2 3 4 5 6

เมื่อรู้วิธีเรียงเลขประจำหลัก วันเดือนปี ต่อมาก็นำมาผูกดวง และเทียบกับเรือนชะตาดังตัวอย่าง ดวงนี้ เกิดวัน อาทิตย์ เดือน 4 ปีขาล เวลา 07.15 น. ถือเป็นวันอาทิตย์เพราะเลยหกโมงเช้าแล้ว ผูกดวงได้ดังนี้

1

2

3

4

5

6

7

4

5

6

7

1

2

3

3

4

5

6

7

1

2

เมื่อผูกดวงแล้วยังไม่สามารถทายได้ ต้องรู้จักเรือนชะตาเสียก่อน ดังตัวอย่าง

อัตตะ

หินนะ

ธานัง

ปิตา

มาตา

โภคา

มัชฌิมา

ตนุ

กะดุมพะ

สหัชชะ

พันธุ

ปุตตะ

อริ

ปัตนิ

มรณะ

ศุภะ

กัมมะ

ลาภะ

พยายะ

ทาสา

ทาสี

 เปรียบเทียบเรือนชะตา กับดาว

อัตตะ

1

หินนะ

2

ธานัง

3

ปิตา

4

มาตา

5

โภคา

6

มัชฌิมา

7

ตนุ

4

กะดุมพะ

5

สหัชชะ

5

พันธุ

6

ปุตตะ

7

อริ

1

ปัตนิ

2

มรณะ

3

ศุภะ

4

กัมมะ

5

ลาภะ

6

พยายะ

7

ทาสา

1

ทาสี

2

 

ก่อนทายต้องรู้จัก ดวงดาว ที่ใช้สัญญลักษณ์แทนด้วยตัวเลข และความหมายเรือนชะตาเพื่อใช้ประกอบทาย ในเลขเจ็ดตัว ใข้ดาวเพียง 7 ดวงเท่านั้น แต่ถ้าใช้ ทักษา ประกอบทาย หรือ ใช้ฐานที่สี่ พยากรณ์ด้วย ก็ใช้ ดาวราหู ดาวเกตุ ทายด้วย ให้อ่านความหมายได้จากหัวข้อ ดวงดาว

ดาวอาทิตย์ แทนด้วยเลข 1

ดาวจันทร์ แทนด้วยเลข 2

ดาวอังคาร แทนด้วยเลข 3

ดาวพุธ แทนด้วยเลข 4

ดาวพฤหัสบดี แทนด้วยเลข 5

ดาวศุกร์ แทนด้วยเลข 6

ดาวเสาร์ แทนด้วยเลข 7

ดาวราหู แทนด้วยเลข 8

ดาวเกตุ แทนด้วยเลข 9

ดาวมฤตยู แทนด้วยเลข 0

ต่อไปมาดูความหมาย เรือนชะตา ทั้ง 21 เรือน

ความหมายหลัก วัน

อัตตะ- ตัวตน ยึดมั่น

หินะ-ตกอับ หายนะ อบายมุข

ธานัง-เงินเก็บ เงินฝาก

ปิตา-พ่อ ผู้ใหญ่ที่เป็นชาย

มาตา-แม่ ผู้ใหญ่หญิง

โภคา บ้านที่ดิน ไร่นา

มัชฌิมา ไม่มากไม่น้อย พอประมาณ กลาง ๆ

ความหมายหลักเดือน

ตนุ-ตัวเรา

กะดุมพะ-เงิน ทอง เครื่องประดับของมีค่า

สหัสชะ-พบปะติดต่อ เพื่อน เดินทาง

พันธุ-ครอบครัว ญาติ บ้านที่ดิน รถ

ปุตตะ-บุตร ลูกน้อง การเริ่มต้น การเสี่ยง

อริ-ศัตรู ปัญญหาอุปสรรค

ปัตตะนิ-คู่ครอง หุ้นส่วน ชีวิตรัก

ความหมายหลักปี

มรณะ-เจ็บป่วย สูญเสีย เก่า ตำหนิ

ศุภะ-วาสนา ความเจริญ ต่างประเทศ เดินทางไกล

กัมมะ-การงาน ภาระ การเรียน

ลาภะ-โชคลาภ รายได้

พยายะ-โรคภัย ไม่สมบูรณ์

ทาสา-คนใช้ชาย อาสารับใช้

ทาสี-คนใช้หญิง การอาสารับใช้

ความหมายเรือนชะตานั้น สามารถทายได้ กว้างขวางอยู่ที่ศิลปะการทาย แต่ต้องอยู่ในขอบเขตเนื้อหาหลักของเรือนชะตา

Free Web Hosting