ผู้ไม่ละความเพียร หมั่นเรียนรู้ ย่อมถึงซึ่ง ความเป็นพหูสูตร ขอบทความทั้งหลายในนี้ จงเป็นจุดกำเนิดนักโหรา

Author Archive

เลขเจ็ดตัวทักษากาลโยค4 (จร)

บทความนี้ จะเสนอ การทายจรอีกระบบหนึ่ง เรียกกันว่า ทักษากาลโยค ใข้ทักษาจร และ กาลโยคเดิมกระทบกาลโยคจร เป็นหลัก ไม่นับอายุในผังดวงเหมือนระบบอื่น ๆ

สูติกาลวันที่ 29 เมษายน 2504

ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีฉลู จ.ศ. 1323
อายุ 48 ปี 0 เดือน

๗ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖
๖ ๗ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕
๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๑

——————————————–
๑๕ ๑๑ ๗ ๑๐ ๑๓ ๑๖ ๑๒
=========================

๑ ๔ ๗ ๓ ๖ ๒ ๕

7 l 5 l 8…………………….5 l 4 l 6

4.l…l 6………ทักษา………..l 2 l…….กาลโยค…..ดวงเดิม

3l 2 l 1…………………….3l 7 l 1

ดวงจรย่าง 49 ปี ระบบนี้ใช้อายุเต็ม ทักษาจรจึงตก 8

8 l 6 l 1……………………./4 l /3 l/5

5.l…l 2………ทักษา……………l /1 l…….กาลโยค เดิม/จร

7l 4 l 3……………………./2l /6 l /7

 

ดวงนี้้เคย เขียนแล้วเรื่อง อุบัติเหตุ แต่นำมาดูในมุม เลขเจ็ดตัวทักษากาลโยคดูบ้าง การดูเคราะห์นั้นมีหลัก สามประการด้วยกันคือ

1. ดาวอัตตะ-คนุ จรลง มรณะ อริ วินาศ หรือ สัมพันธ์กาลกิณี ในกาลโยค

2.ดาวอายุจรลง อริ มรณะ วินาศนะ

3.ดาวอายุเดิม หรือ อายุจร สัมพันธ์กาลกิณี ในกาลโยค

ดวงนี้เข้าทั้งสามข้อ คือ

1. 6 คนุจรลงวินาศนะ และ 7 อัตตะจรลงอริ
2. 6 อายุจร จรลง วินาศนะ
3. 5 อายุเดิม จรทับ กาลีเดิมในเรือนราชาโชค /4 และ 5 กาลกิณีจร จรทับ ๖ อายุจรที่เรีอน ธงไชย /5

ดวง นี้เข้าเกณฑ์หลายจุด จึง ประสบเหตุ รถประจำทางพลิกคว่ำ ส่วนการกำหนดจุดเกิดเหตุนั้น ให้นับ เดือนเกิดที่บริวารจร (8) เป็นเดือนที่ 1 และ อายุจรเป็นเดือนที่ 2 โดนกำหนดนับที่ ค่ำแรมที่เกิด และเดือนเกิด ใช้ระบบ จันทรคติ คือเดือนไทยจะตรงมากกว่า

สำหรับดวงนี้ เกิด ขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ก็กำหนดเดือนแรกที่ตำแหน่งบริวารจร (8)
เกิดเหตุเดือน 7 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 7 ตกตำแหน่งอายุจร (6) ในกาลโยคตกตำแหน่ง โลกาวินาศ ทับ ๗ เดิม คู่ศัตรู ตามดู 7 จร ตำแหน่ง อริ เท่ากับ ตนุ-อายุ-โลกาวินาศ-อริ แปลได้ว่ามีเคราะห์ทางอุบัติเหตุเกี่ยวกับร่างกาย

ส่วนวันจร ก็นับจากเดือน 7 จร (6 อายุ จร) จากค่ำแรมที่เกิดคือ ขึ้น 15 ค่ำ จนถึง ค่ำแรมที่เกิดหตุ คือ ขึ้น 5 ค่ำ ที่ตำแหน่งเดือน 7 (6 อายุจร) ตกตำแหน่ง อุตสาหะจร (4) เท่ากับ 4 ทับ (๕ กาลีจร) ที่ตำแหน่งราชาโชค และ ตาม 5 ปทับ อายุจร ที่ ธงไชย (4 อุตสาหะจร นอกจากแปลว่าการงานแล้วยังหมายถึง การเดินทางไกลด้วย)

หาก จะดูเรื่อง อื่น ก็จับเรื่อง มา กระทบกาลโยค และ ตามดาวดู แล้วใช้ทักษาขยายความ ให้จับ กาลโยคจร และ ทักษาจร เป็นหลัก เช่นดูการเงิน จับที่ กะดุมพะ

7 กะดุมพะ จรลง อริ ในกาลโยค อ่านชั้นต้นก่อนคือ การเงินมีปัญหาขัดข้อง ทักษาจร 7 เป็นมนตรี ความขัดข้องนี้ย่อมเกิดจาก ผู้ใหญ่ หรือ การอุปถัมภ์ อ่านจังหวะต่อไป 7 ทับ ๑ กาลโยคเดิม ตามดู ๑ เป็น สหัชชะ-ทาสา ในดวงชะตา ปัญหานี้ ย่อมมาจาก พี่น้อง บริวารคนใกล้ชิด ดู ทักษา ๑ เป็น เดชจร ย่อมหมายถึงการใช้อำนาจ ให้เราต้องจำยอม 1 ในกาลโยค ตกตแหน่งขุมทรัพย์ ทับ ๒ เดิม ในดวงชะตา คู่ครัวเรือน ย่อมเน้นย้ำว่าเป็น เรื่องคนในครัวเรือนคือ พี่น้องนั่นเอง เงินนี่ให้แล้วสูญ เพราะ 2 เป็นมรณะจร ใน กาลโยค

การทายระบบนี่เห็นว่ายุ่งยากพอควร แต่เมื่อใช้จนคล่องแล้ว ก็มีอะไรให้เล่นเยอะเหมือนกัน เหมาะสำหรับคนชอบคิดชอบลอง แต่พึงจำไว้ว่าการนับอายุ ระะบบนี้ จะใช้ อายุเต็มในการนับทักษาจร เมื่ออายุย่าง 49 จึงนับทักษาเพียง 48 ปี จึงตกภูมิราหู แทน ภูมิศุกร์ที่นับแแบบอายุย่าง

เลขเจ็ดตัวทักษากาลโยค3

บทความนี้ จะแสดงการอ่านพื้นดวง  แบบครบทุกขั้นตอน คือ ผังดวง ฐานที่ 4 เลขครู  ทักษา กาลโยค  ขอยกดวงตัวอย่างจากอันเก่ามาเป็นแนว เพื่อให้เห็นภาพ

4…..5….6….7….1….2….3

4…..5….6….7….1….2….3

4…..5….6….7….1….2….3

————————————————

12..15..18…21…3….6…9………….ผลรวม-กำลังดาว

5….1….4….7….3…..6…2…………เลขครู

——————————————————-

4 l 7 l 5…………………….2 l 1 l 3

3 l…l 8………ทักษา………..l 6 l…….กาลโยค

2 l 1 l 6…………………….7l 4 l 5

ระบบนี้ จะเ้น้นการทายที่ทักษา ในที่นี้จะดูดีร้ายจากทักษา คือ ศรีด้านดี กาลีด้านร้าย

ศรี ราหู 8 ระบบนี้ใช้ 1 อ่านแทน ในดวง มาตา-ปุตตะ-พยายะ-ทาสา(เลขครู)-อธิบดี(กาลโยค)   1 ฐาน 3 (ฐานสี่)  อ่านง่าย ๆ อ่านทีละคู่ก่อน ค่อยมาผสมดป็นประโยค

ศรี-มาตา—แม่เป็นคนดีใจบุญ

ศรี-ปุตตะ—บุตรเป็นคนดีมีความประพฤติดี

ศรี-พยายะ—สุขภาพดี แข็งแร็ง

ศรี-ทาสา—เหน็ดเหนื่อยแล้วดี มีความเจริญ

ศรี-อธิบดี-–ชื่อเสียงดี ยศตำแหน่งดี

ทายได้ว่า ดวงนี้ แม่เป็นคนดีมีศีลธรรม ฝักใฝ่ทางบุญกุศล มีบุตรก็มีความประพฤติดี อยู่ในกรอบศีลธรรม สุขภาพแข็งแรงดี เป็นคนมีหน้ามีตา เป็นที่ยอมรับของสังคม แต่แม่และบุตร ออกจะเป็นคน เอาแต่ใจและอารมภ์รุนแรงไปนิด (1 ฐาน 3 คู่ศัตรู)

กาลี 3 ผังชะตา มัชฌิมา-ปัตนิ-ทาสา มหาโจร(เลขครู) ธงไชย(กาลโยค) 3 ฐาน 9

อ่านได้ว่า คู่ครอง(ปัตนิ)ช่วยเหลือใคร(ทาสา)จะเกิดความเดือดร้อน(กาลี)โดยไม่คาดคิด (มหาโจร)เพราะตั้งใจช่วยเกิน(ธงไชย)ทำให้ชีวิตอยู่ท่ามกลาง(มัชฌิมา)ความ ยุ่งเหยิงวุ่นวาย(3 ฐาน 9)

เทคนิคการอ่าน ดวงนั้น มีมากมาย อยูู่ที่ความสามารถเฉพาะตัว ในการ อ่าน ภพและดาว แต่ละคนต้องหาแนวเป็นของตัวเอง ถ้าชำนาญแล้ว มองดวงปุ๊ปสามารถแปลเป็นเรื่องราวได้เลย แต่ถ้ายังไม่ชำนาญ ให้อ่านทีละคู่ จะอ่านง่าย ค่อยผสมประโยคเช่น

ปัตนิ-ฐาน 9 –คู่ชีวิตสับสนวุ่นวายตามดาวเกตุ

ปัตนิ-ทาสา–คู่ชอบรับใช้ช่วยเหลือคน

ปัตนิ-ธงไชย–คู่ชอบเอาชนะ ทำอะไรต้องให้สำเร็จ

ทาสา-กาลี เดือดร้อนเพราะช่วยเหลือคนอื่น

จะเห็นว่ามี คำ ให้ผสมมากมาย จากดาวดวงเดียว ตามแต่จะคิดได้ เมื่อได้หลายความหมายค่อยนำมาผสมเป็นประโยค อันนี้เป็นศิลปะ จะถูกใจคนฟังหรือไม่ หรืออาจ โดนด่า ก็อยู่ที่ศิลปะการออกคำทำนายนี่เอง

 

up

เลขเจ็ดตัวทักษากาลโยค2

สำหรับ บทนี้จะกล่าวถึงเลขครู ใช้สำหรับทำนายทั้งดวงเดิม และ ดวงจร ใครที่เคยเรียน เลขเจ็ดตัวเก้าฐานจะคุ้นเคยกันดี เพราะคาถาคล้ายฐานที่ 8 แต่ถ้าจะทายระบบนี้ ให้วางแบบอื่น ๆ ไว้ก่อน ไม่ต้องนำมาปนเปกัน เพราะจะลังเล ถ้าใช้ระบบไหนทายก็ให้เป็นเอกเทศไป

เลขครู เกิดจากเอา แถววันเดือนปีมาบวกกัน แล้ว หาร เจ็ด เศษตั้งเรือน

5…6…7…1…2…3…4

6…7…1…2…3…4…5

5…6…7…1…2…3…4

——————————

2…5…1…4…7…3…6……เลขครู

อาตมา…..ทาสา…..สิทธิโชค…..โภคสมบัติ…..มหาโจร…..มหาอุบาทว์…..มหาอุปถัมภ์…คาถาประจำแถว

อาตมา แปลว่า ตัวตนเจ้าชะตา

ทาสา แปลว่า เหน็ดเหนื่อย ภาระ

สิทธิโชค แปลว่า โชคลาภ ความสำเร็จ โอกาสดี

โภคสมบัติ แปลว่า ทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน อาคาร ไร่นา

มหาโจร แปลว่า การแก่งแย่ง ช่วงชิง เอาเปรียบ ศัตรูลับ

มหาอุบาทว์ แปลว่า บาปเวร เคราะห์กรรม ความอัปมงคล

มหาอุปถัมภ์ แปลว่า การช่วยเหลือ สนับสนุน ดูแล เลี้ยงดู

ตัวอย่างการอ่าน

อาตมา 2 ชน พยายะ-พันธุ-มาตา  อ่านได้ว่า ตัวเจ้าชะตา(อาตมา) มีความบกพร่องไม่สมบูรณ์(พยายะ)ในการสร้างฐานะหลักฐาน(พันธุ)และการจัดการในครอบครัว(มาตา-พันธุ)คิดอ่านทำอะไรก็ไม่สมบูรณ์ ไม่เต็มที่ (2 คิดจินตนาการ พยายะ-บกพร่องไม่สมบูรณ์)

สิทธิโชค 1 ชน ลาภะ-กะดุมพะ-ปิตา  อ่านได้ว่า เจ้าชะตา เป็นคนโฉลกดี มีโอกาส(สิทธิโชค)ในการแสวงหา รายได้ผลกำไร(กะดุมพะ-ลาภะ) สืบต่อตำแหน่งการงานจากพ่อ(1 หน้าที่การงาน ปิตา-พ่อ)

มหาอุบาทว์ 3 ชน ทาสี-ปุตตะ-โภคา อ่านได้ว่า เจ้าชะตามีเคราะห์กรรม บาปเวร(มหาอุบาทว์)เกี่ยวกับ ทรัพย์สิน ที่ดิน(โภคา)เนื่องมาจากบริวาร(ทาสี-ปุตตะ)

ตัวอย่างนี้เป็นการทายเบื้องต้น ถ้าจะให้สมบูรณ์จะต้องใช้ ทักษา กับ กาลโยค ประกอบทายอีกชั้นจึงจะสมบูรณ์

 

up

เลขเจ็ดตัวทักษากาลโยค1

การทายนี้ ใช้หลักวิชาสามอย่าง คือ ผังชะตาจากเลขเจ็ดตัว ทักษา กาลโยคแบบพม่า ในที่นี้จะอ่านดวงตัวอย่าง เป็นแนวทาง สำหรับผู้กำลังศึกษา ถ้าถูกจริตตัวเองชอบใจ ก็นำไป ทดสอบจากดวงจริงหาประสบการณ์ ถ้าไม่ถูกใจก็เรียนเป็นความรู้ประดับสมอง

เหมือนเดิมคือ  หลักวิชานี้ ท่านอาจารย์ ระวิ ก้องวงศ์ ถ่ายทอดไว้ในนิตยสารโหราเวสน์ ท่านว่าเจ้าของวิชาหวงนัก แต่ท่านก็นำมาเปิดเผยไม่ใช่น้อย  ใครมีปัญญา สามารถพัฒนาต่อได้ จนขั้นสูง บุญกุศลจะพึงมี ขออุทิศให้ ท่าน อาจารย์  ใครมีใจเป็นกุศล อ่านแล้ว ช่วยทำบุญให้ท่าน็ จะขอบคุณมาก

รหัสดวง 444 เพื่อไม่ให้เป็นการขโมยดูดวง ให้ถือเป็นแค่รหัสดวง ไม่ใช่ดวงใคร คนใดคนหนึ่ง  ระยะแรกให้อ่าน สามฐานให้คล่องก่อน อย่าเพิ่งใช้ ฐานสี่ หรือ ฐานอื่น ๆ จะสับสน

4….5….6….7….1….2….3

4….5….6….7….1….2….3

4….5….6….7….1….2….3

—————————————–

4 l 7 l 5…………………….2 l 1 l 3

3 l…l 8………ทักษา………..l 6 l…….กาลโยค

2 l 1 l 6…………………….7l 4 l 5

ดูตัวตน ดาว 4 อัตตะ-ตนุ-มรณะ ทัษา บริวาร กาลโยค โลกาวินาศ  การทาย มือใหม่คงจะงงว่าจะจับตรงไหนก่อน  ให้หลักไว้ดังนี้  ทายเรือนชะตาไปหากาลโยคทักษา หรือ ทายกาลโยคทักษามาหาเรือนชะตา ได้ทั้งสองอย่าง เริ่มจากจุดไหนก่อนก็ได้

1. เริ่มจากเรือนชะตา  อัตตะ-ตนุ-มรณะ  พึ่งพาตนเอง เชื่่อมั่นตัวเอง แต่ที่พบมา เห็นชอบใช้คนอื่นทำนั่นทำนี่  แล้วไม่ถูกใจ ต้องมาทำเอง คือเป็นคนเอาแต่ใจ จะให้เหมือนที่ตัวเองต้องการ ทีนี้ใช้ใครล่ะ ก็ ทักษา บริวาร ต้องเป็น เมีย ลูก ลูกน้อง  ใช้แล้วเป็นอย่างไร ดูที่ กาลโยค โลกาวินาศ ใช้บริวาร ลูกเมียก็ วิบัติ สิ ไม่สำเร็จแล้ว ยัง ทำความเสียหายให้อีก  ก็ กรรมมันบังตับ อัตตะ-ตนุ  ต้องทำเอง ฝืนกรรมก็เดือดร้อนนะสิ  แล้วมรณะ มัน ภพ เปลี่ยนแปลง-สูญเสีย จะไปเอาอะไรกับ บริวาร  ทางที่ดีทำเองแต่แรก ไม่ต้องเสียหาย

2. ลองดูการเงิน 5 หายนะ-กะดุมภะ-ศุภะ ทักษาเดช กาลโยค อริ   (กะดุมภะ-ศุภะ  ช่องทาง โอกาสทางการเงิน  ศุภะ เรานิยมใช้ความหมายว่า ช่องทาง โอกาส) สัมพันธ์ หายนะ  ดวงนี้มีโอกาส หายนะทางการเงิน  จากใคร เรื่องอะไร  ดูที่ ทักษา เดช  อำนาจ บารมี ถ้า ต้องการบารมีก็ต้องช่วยเหลือคน  ถ้าไม่ระมัดระวัง อยากจะได้ บารมี มีอำนาจ ไปเที่ยวช่วยคนนั้นคนนี้ การเงินหายนะแน่  สร้างบารมีแล้วเป็นอย่างไร ดูกาลโยค อริ เดือดร้อนตามมา แถมช่วยแล้ว กลับสร้างปัญหาตั้งตัวเป็น อริ เสียอีก

อันนี้เป็นลักษณะการอ่าน เลขเจ็ดตัว กระทบกาลโยค ทักษา เป็นหลักวิชา เจ็ดตัวพม่าระบบหนึ่ง แบบ ไม่ตั้งเสา   อยากรู้แม่นไหม ต้องลองหาดวงคนรู้จักมาลองดู   เขียนมากไปไม่ได้ เพราะ โจร วรรณกรรม ที่หาข้อมูลทางเน็ต ไป เขียนหนังสือขายเยอะ  แถม อ้างลิขสิทธิ์อีก ต้องระวังหน่อย

 

ทักษากับกาลโยค

ก่อน อื่นต้องบอกว่า หลักวิชานี้ ผู้เขียนศึกษาจาก อาจารย์ ระวิ ก้องวงศ์ จาก นิตยสารโหราเวสน์ ซึ่งตอนนี้ ท่านอาจารย์ได้ เสียชีวิตแล้ว เมื่อช่วงเดือน พ.ค ปี 2547 เหลือแต่ความรู้อันทรงคุณค่าที่ให้ไว้กับคนรุ่นหลังได้ใช้ ศึกษากันต่อไป คุณความดีทั้งหมดที่จะพึงมี ขอมอบให้ท่านอาจารย์ทั้งหมด

ในบทนี้จะ แนะนำ การอ่าน ทักษา กระทบ กาลโยค เป็นแนวทางไว้ ส่วนใครที่ยังไม่ รู้จัก ทักษา กับกาลโยค ให้หาอ่านใน หัวข้อ ภูมิทักษา และ การคำณวน กาลโยค

บริวาร กระทบ กาลโยค

บริวาร-โลกาวินาศ หมายถึง บริวาร นำความเสื่อมเสียมาให้ บริวารจองล้างผลาญให้ร้าย บริวารเป็นศัตรูลับ ๆ

บริวาร-อริ หมายถึง บริวารตั้งตัว เป็นศัตรู ก่อปัญหาเดือดร้อนให้ เดือดร้อนเพราะบริวารอยู่เรื่อย ๆ

บริวาร-ขุมทรัพย์ หมายถึง บริวาร ขยันขันแข็ง ร่ำรวย มีทรัพย์เพราะบริวาร

บริวาร-มรณะ หมายถึง บริวาร ลูกน้อง เป็นคนต่างถิ่น เปลี่ยนลูกน้องใหม่บ่อย ๆ บริวารอยู่ด้วยไม่นาน

บริวาร-อธิบดี หมายถึง บริวารเป็นคน ฉลาด ทำงานเก่ง หัวดี ไว้ใจให้บริหารจัดการเองได้

บริวาร-ราชา หมายถึง บริวาร เป็นคน สนบสนุนช่วยเหลือ ในเรื่องต่าง ๆ ได้ดี และ วางตัวภูมิฐานเหมาะสม

บริวาร-ธงไย บริวารเป็นคนขยันขันแข็ง มอบหมายงานให้ ก็ สำเร็จลุล่วงด้วยดี ประสบความสำเร็จเพราะ บริวาร

อายุ กระทบ กาลโยค

อายุ-โลกาวินาศ สุขภาพไม่ดี ร่างกายไม่สมบูรณ์ ไม่สมประกอบ อุบัติเหตุไมาคาดคิด ศัตรูไม่เปิดเผยตัวทำร้าย

อายุ-อริ มีปัญหาสุขภาพ ระวังอุบัติเหตุ ผ่าตัด ร่างกายไม่สมบูรณ์ถูกทำร้ายร่างกาย

อายุ-ขุมทรัพย์ สุขภาพดี แข็งแร็ง  มีความเป็นอยู่ อาหารการกิน อุดมสมบูรณ์ รูปร่างผิวพรรณดี

อายุ-มรณะ ร่างกายไม่สมบูรณ์ เจ็บ ออด ๆ แอด ๆ หาหมอ เข้าโรงพยาบาบ่อย ระวังอุบัติเหตุ เจ็บป่วย พิการ อายุสั้น

อายุ-อธิบดี สุขภาพดี แข็งแร็ง สมองดี ผิวพรรณสดใส

อายุ-ราชาโชค สุขภาพดี แข็งแรง ชีวิตสุขสบาย อุดมสมบูรณ์ สะดวกสบาย มีหมอดี ยาดี

อายุ-ธงไชย ร่างกายแข็งแร็ง มานะบากบั่น นักต่อสู้ คิดหวังความก้าวหน้า ความสำเร็จ

เดชกระทบกาลโยค

เดช-โลกาวินาศ ระวังถูกใส่ร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสัยง ถูกถอดยศถอดตำแหน่งเพราะใช้อำนาจในทางที่ผิด มีคนใส่ีร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

เดช-อริ ยศตำแหน่ง ต้องอาศัยการต่อสู้แข่งขัน ผ่านอุปสรรค ใช้อำนาจไม่ระมัดระวังจะถูกปองร้าย

เดช-ขุมทรัพย์ ได้เลื่อนยศตำเลื่อนแหน่งสูง ๆ  มีกินมีใช้เพราะ อำนาจหน้าที่

เดช-มรณะ อำนาจ วาสนา ยศตำแหน่ง ไม่มั่นคงถาวร เปลี่ยนแปลงตลอด

เดช-อธิบดี วาสนาดี จะมีอำนาจ ชื่อเสียง ยศตำแหน่ง ไปได้ดีต่างถิ่น

เดช-ราชาโชค ได้รับการสนับสนุน ให้เลื่อนยศตำแหน่ง จากผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจ ยศตำแหน่งขึ้นไว ง่ายไม่ลำบาก

เดช-ธงไชย  ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ยศตำแหน่ง สอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งสำเร็จ

ดาวศรี กระทบ กาลโยค

ศรี-โลกาวินาศ ทำคุณคนไม่ขึ้น ปิดทองหลังพระ ถูกเบียดเบียนเอาความดี ถูกให้ร้ายป้ายสี

ศรี-อีริ ทำคุณความดีแต่ละที มีอุปสรรค มีคนคอยขัดขวาง มีคนคัดค้าน กลั่นแกล้งโจมตี

ศรี-ขุมทรัพย์ ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง มีโชคมีลาภ ประสบความสำเร็จ

ศรี-มรณะ ความดีที่ทำไว้ในอดีต จะย้อนกลับมาให้คุณ ของหายจะได้คืน ได้ลาภจากคนตาย

ศรี-อธิบดี ได้เลื่อนยศตำแหน่ง มีชื่อเสียง อำนาจวาสนา เพราะคุณความดี และบุญกุศล

ศรี-ราชาโชค ทำดีได้ดี ผู้ใหญ่เห็นคุณความดี ประสบผลสำเร็จโดยง่าย

ศรี-ธงไชย ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน การแข่งขันมีชัยชนะ เจริญสูงสุด

มูละ กระทบ กาลโยค

มูละ-โลกาวืนาศ ทรัพย์สิน เรือกสวนไร่นา บ้านที่ดิน วิบัติล่มจม ถูกหลอก ถูกโกงให้เสียทรัพย์

มูละ-อริ การ่อร่างสร้าง ฐานะ ซื้อบ้าน ที่ดิน รถ เต็มไปด้วยความเหนื่อยยาก มีอุปสรรค เป็นหนี้สินเพราะ ทรัพย์สินที่ดิน

มูละ-ขุมทรัพย์ มีวาสนาทาง ทรัพย์สินที่ดิน สร้างบ้านซื้อรถได้สำเร็จ บ้านที่อยู่ อาคาร ทำเลดี ให้โชคลาภ ทำมาหากินเจริญดี ได้มรดก

มูลละ-มรณะ ทรัย์ที่ดินไม่มั่นคง รักษาทรัพย์ไม่คงทน ย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง

มูลละ-อธิบดี บ้านที่อยู่ดูโออ่า โดดเด่น ได้ย้ายที่อยู่ไปอยู่ต่างถิ่นต่างแดน

มูลละ-ราชา สร้งบ้าน ซื้อรถ ที่ดิน สำเร็จโดนง่าย มีผู้ช่วยเหลือเรื่องทรัพย์สิน ได้มรดก

มูละ-ธงไชย ประสบความสำเร็จในการสร้างฐานะหลักฐาน ความขยัน มานะพยายามนำมาซึ่งทรัพย์สิน

อุตสาหะ กระทบ กาลโยค

อุตสาหะ-โลกาวินาศ การงานโครงการที่ทำ ไม่ราบรื่น มีคนคอยจ้องทำลาย ให้ร้าย ใส่ร้ายป้ายสีให้เสียหาย มีคนคอยทำลายอยู่แบบลับ ๆ ไม่เปิดเผย

อุตสาหะ-อริ การงาน โครงการต่าง ๆ ประสบปัญหาอุปสรรค ถูกติติงคัดค้าน คอยขัดขวาง

อุตสาหะ-ขุมทรัพย์ การงานหรือโครงการที่ทำ ประสบผลสำเร็จ ทำให้มีทรัพย์สินฐานะ ดีขึ้น มีกินมีใช้เพราะการงาน

อุตสาหะ-มรณะ-การงานอาชีพที่ทำไม่มั่นคง เปลี่ยนแปลงบ่อย ต้องไปทำงารที่ไกล ๆ ต่างถิ่นตางแดน

อุตสาหะ-อธิบดี การงานอาชีพโดดเด่นผลงานดี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก

อุตสาหะ-ราชาโชค การงานอาชีพโครงการที่ทำ ราบรื่น ง่ายดายสะดวกสบาย ผู้ใหญ่เจ้านายให้การสนับสนุน

อุตสาหะ-ธงไชย การงานโครงการที่ทำ ประสบความสำเร็จผลงานดี แต่ต้องมานะพยายามต่อสู้แข่งขันถึงประสบผลสำเร็จ

มนตรี กระทบ กาลโยค

มนตรี-โลกาวินาศ ผู้ใหญ่เจ้านาย ไม่ค่อยถูกชะตา คอยให้ร้ายแบบไม่เปิดเผย การเลื่อนขั้นตำแหน่ง มีเสันสาย แอบติดสินบน

มนตรี-อริ มักมีความคิด ขัดแย้งกับผู้ใหญ่เจ้นาย มีอุปสรรคในการทำผลงาน เลื่อนขั้นตำแหน่ง

มนตรี-ขุมทรัพย์ ผู้ใหญ่เจ้านาย ให้เงินให้ทรัพย์สิน การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเป็นไปอย่างราบรื่น

มนตรี-มรณะ ผู้ใหญ่เจ้านายสุขภาพไม่ดี เปลี่ยนเจ้านายบ่อย ตำแหน่งหน้าที่ไม่มั่นคง การเลื่อนข้นตำแหน่งไม่แน่นอน

มนตรี-อธิบดี เจ้านายเป็นคนมีบุญบารมี จะได้เป็นใหญ่มีชื่อเสียง ได้เลื่อนตำแหน่งใหญ่ขึ้น

มนตรี-ราชา เจ้านาย ผู้ใหญ่ช่วยเหลือให้ ประสบผลสำเร็จ ได้รับการสนับสนุนจากเจ้านาย

มนตรี-ธงไชย ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน เลื่อนขั้นตำแหน่ง ประสบความสำเร็จเพราะผู้ใหญ่เจ้านายอุปถีมภ์

กาลกิณี กระทบก าลโยค

กาลึ-โลกาวินาศ ระวัง ศัตรูไม่เปิดเผยตัวลอบทำร้าย มีบาปเวรมากระวังเคราะห์กรรมที่เกิิดโดยไม่คาดคิด

กาลี-อริ ศัตรูจ้องทำร้ายให้โทษ บาปเวรมากระวัง อุบัติเหตุ ถูกทำร้ายจากคนชั่วนักเลง

กาลี-ขุมทรัพย์ ระวังสูญ ทรัพย์ ถูกหลอกถูกโกง โจรผู้ร้ายปล้นจี้ โจรกรรม

กาลี-มรณะ ระวังเคระห์กรม จากวิญญาน ของตาไม่เห็น เดือดร้อนเพราะ คนทรงเจ้า ร่างทรง หมอดู

กาลี-อธิบดี จะมีเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียง ไปต่างถิ่นต่างแดนมีเคราะห์

กาลี-ราชา เดือดร้อนเพราะคนใหญ่คนโต เคราะห์กรรมมาถึงตัวเกิดขึ้นกระทันหัน ไม่ทันตั้งตัว

กาลี-ธงไชย มีอุปสรรคขัดขวางความมานะพยายาม ทำการใดมีอุปสรรคสำเร็จยาก คนชั่วมีอำนาจมีอิทธิพล

สำหรับ ความหมาย กาลโยค คงพอเป็นแนวทางสำหรับประสมคำระหว่าง ความหมายทาง ทักษากับกาลโยค  แนะนำว่าไม่ควรท่องจำ แต่ให้หัดผสมคำเอง เพราะความหมาย ดิ้นได้แล้วแต่ เหตุการณ์และความเหมาะสม

อุบัติเหตุ

สูติกาลวันที่ 29 เมษายน 2504
ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีฉลู จ.ศ. 1323
อายุ 48 ปี 0 เดือน

๗ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖
๖ ๗ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕
๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๑

——————————————–
๑๕ ๑๑ ๗ ๑๐ ๑๓ ๑๖ ๑๒
=========================

๑ ๔ ๗ ๓ ๖ ๒ ๕
๒ ๑ ๗ ๖ ๕ ๔ ๓
๔ ๒ ๗ ๕ ๓ ๑ ๖

——————————————–
๑ ๖ ๔ ๒ ๗ ๕ ๓
๓ ๕ ๗ ๒ ๔ ๖ ๑

ใครจะรู้ว่า วันหนึ่ง จะเกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นกับตน อย่างที่ไม่มีวันลืม ดวงนี อยู่ข้างบ้านผู้เขียนเอง แต่แปลกไม่เคยมาให้ตรวจดวงชะตาเลย วันเกิดเหตุ ไปส่งลูกสาวมอบตัวที่ กรุงเทพ ระหว่างเดินทางโดยรถทัวร์ เมื่อถึงจังหวัด นครสวรรค์ รถเสียหลักพลิกคว่ำ โชคดีบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

ปีนี้ อายุจร ย่าง 49 ปี ตก 6 ฐาน 12 เรือน มัชฌิมา-ตนุ-พยายะ และ ทาสา-นาวัง ฐานที่ 8-9 ฐาน 12 กำลังราหู แนวโน้มไม่ดี แต่จะปรักปราำว่าร้ายคงยังไม่สนิทใจ ต้องตรวจดู ราหูในดวงว่าเสียจริงหรือไม่ ดูราหู ให้ดู 4 ในดวง ชนอริ เป็นอันแน่ใจได้ว่าร้ายแน่ ทีนี้ก็ไปดูเรื่องราว ว่าจะไปทางใด มีน่าสนใจคือ ตนุ-พยายะ จะเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาล อีกอัน นาวัง-พยายะ การเดินทางไม่ปลอดภัย 6 ฐานเดิม 13 บ่งบอกเรื่อง อุบัติหตุ ดวงแบบนี้ ให้ทายได้เลยมีเคราะห์แน่นอน

การทายจรอีกแบบคือการใช้นักษัตริย์ จรกระทบ อายุจร ปีนี้ปี ฉลู เลข 2 กระทบ 6 คู่สำรวยสำราญ คู่เสน่ห์หา น่าจะดี แต่เราต้องดู 2 ด้วยในดวงนี้ ธานัง-พันธุ-มรณะ อ่านได้ว่า จะเสียทรัพย์(ธานัง-มรณะ) ญาติคนในครอบครัวป่วย (พันธุ-มรณะ) รถเสียหรืออุบัติเหตุจากยานพาหนะ (พันธุ-มรณะ พันธุหมายถึง ที่ดินยานพาหนะด้วย) เรื่องเสียทรัพย์นั้น ดวงนี้ โน้ตบุ๊คที่เอาไปด้วย พังยับเยิน นอกจากอุบัติเหตุ

ลองดูจรเดือน แบบใช้เดือนเกิดจรจากอายุจร ดวงนี้ เกิด 29/4/ เหตุเกิด 28/5/ ช่วงเกิดเหตุยังอยู่ในเดือนแรก เพราะนับเดือนแรกที่ มัชฌิมา 29/4/ ถึง 29/5/ เหตุเิกิด 28/5/ ตกตำแหน่งเดียวกับจรปี ทายเหมือนจรปี

ลองดูจรเดือนแบบ อ.เจษฎา เดือน 7 ตรง หายนะ-สหัชชะ-ทาสา 1 ฐาน 7 บ่งบอกว่ามีเคราะห์จากการเดินทาง ( สหัสชะ-หายนะ ฐาน 7)

โดนโจรกรรม

โดนโจรกรรม

สูติกาลวันที่ 11 มีนาคม 2502 เวลา 11:00 น.
ตรงกับวันพุธ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 4 ปีจอ จ.ศ. 1320
อายุ 50 ปี 0 เดือน

๔ ๕ ๖ ๗ ๑ ๒ ๓
๔ ๕ ๖ ๗ ๑ ๒ ๓
๔ ๕ ๖ ๗ ๑ ๒ ๓
——————————————–
๑๒ ๑๕ ๑๘ ๒๑ ๓ ๖ ๙
=========================
๕ ๑ ๔ ๗ ๓ ๖ ๒
๓ ๒ ๑ ๗ ๖ ๕ ๔
๖ ๔ ๒ ๗ ๕ ๓ ๑
——————————————–
๕ ๓ ๑ ๖ ๔ ๒ ๗
๔ ๖ ๑ ๓ ๕ ๗ ๒

————————————-

ดวงนี้ อายุย่าง 51 เรือน กะดุมพะ-ศุภะ-หายนะ ฐาน 15 กำลังของ ดาวจันทร์ [กะดุมพะ-หายนะ ถูกโจรกรรม เพราะ หายนะแปลว่า อบายมุขมิจฉาชีพ][ศุภะ-หายนะ มีคดี เกี่ยวข้องกับคดี เพราะ ศุภะคือ คดีความชนเสียหายนะ][กะดุมภะ-ศุภะ มีวาสนาทางทรัพย์] ดวงนี้ แต่ถ้าคนที่หัดดูดวงใหม่ ๆ เห็นฐาน 15 ตามสูตร 15 ดีปานกลาง ชนเสียก็ ทอนความดีไป 20 เปอร์เซนต์ อาจทายว่ามีโชคลาภ การเงิน มีวาสนาดี แต่ได้ไม่เต็มที่

แค่ถ้าคนที่มีประสบการณ์ ดูปุ๊บ จะรู้ว่าดวงเสียทรัย์แน่นอน เพราะ 15 กำลัง ดาวจันทร์ เมื่อ ตามดู 2 ตรง โภคา-อริ-ทาสา ดาวจันทร์นี้ไม่ได้ให้คุณ แต่ บ่งบอกว่า จะเดือดร้อน เรื่อง ทรัพย์สิน การดูดวงต้อง ตามดูให้ครบทุกดาวที่เกี่ยวข้อง

ดวงนี้ ถ้าอยากรู้ว่าจะโดน โจรกรรม หรือเสียทรัพย์ช่วงใด ก็ใช้ตัวเลขจรปีนั่นแหละ คือ 5 ตรงกับเดือน 5 หรือ เดือน 12 แต่ดวงนี้ 3/4/52 วันเกิดเหตุ เดือนไทยตรงกับเดือน 5
การดูดวงต้อง พินิจ ให้ดีก่อนพยากรณ์ เพราะ อาจเกิด ความเสียหายได้ อย่างดวงนี้ ถูกงัดรถ เอาทรัพย์สิน ในกระเป๋า ตอนจอดรถ ที่โลตัส

สำหรับใครที่ ดู แบบเก้าฐาน จะเห็นว่า ตำแหน่ง กะดุมพะ 5 ฐานที่ 2 กระทบ กับดาว 2 ฐานที่ 6 [5-2 เป็นดาว คู่ธาตุ และ คู่ศัตรู ถ้าไม่ชนเสีย น่าที่ จะเรื่องดี แต่ดวงนี้ ชนเสีย คือ โภคา-อริ-ทาสา-มหาอุบาทว์-ภริยัง ทำให้ดาวคู่ศัตรูทำงาน] จะเห็นว่า 2 เสียหายมาก เมื่อกำลัง 2 คือ 15 ไปอยู่ใต้ 5 ฐานที่ 4 ทำให้ [ 5 กะดุมภะ และ 2 โภคา เสียหาย ด้วยประการฉะนี้]

บางคนสงสัยว่า ดูวันที่เกิดเหตุได้หรือไม่ ลองมาดูกัน การนับวัน ระบบที่จะ แนะนำ คือ นับวันเดือนปีเกิด ที่ อายุจร ทีละเดือน ไล่ไปตามเรือนชะตา ดวงนี้ เกืด 11/3/2502 การนับ กำหนดเดือนก่อน อายุจรตก กะดุมพะ นับเดือนแรกที่ 5 กะดุมภะ ระยะเวลา 11/3/52 – 11/4/52 เนื่องจากวันเกิดเหตุ อยู่ในเดือนแรก คือ 3/4/52 จึงใช้เดือนนี้นับวันจร วิธีการคือ นับวันที่ 11/3/52 จากกะดุมพะ 12 ที่ สหัสชะ ไล่ไป ถึง ทาสี ตรงวันที่ 23 ยังไม่ถึงวันเกิดเหตุ นับต่อไป ที่ อัตตะ วันที่ 24 ถึง ตนุ วันที่ 31 สิ้นเดือน เหตุเกิดวันที่ 3 นับต่อไป ตก [พันธุ ดาว 7 ตรงกับวันที่ 3/4/52 ตรงนี้พอดี]

มาดู 7 ปิตา-พันธุ-ลาภะ-มหาอุปถัมภ์-นาวัง ฐาน 21 [ 7 ฐาน 21 กำลังดาวศุกร์ คู่ศัตรู เสาร์ศุกร์ มีปัญหาเรื่อง คู่ ความรัก ทรัย์สิน เสาร์คือสูญเสีย ศุกร์คือ ทรััพย์หรือการเงิน] [เรือนนาวัง ยานพาหนะ กับ คู่ ศัตรู 7ฐาน21 มีปัญหาเรื่อง รถ] ตามกำลัง 21 ไปดู ศุกร์ 6 ธานัง-สหัสชะ-กัมมะ [เรือน ธานัง กับ เสาร์ศุกร์คู่ศัตรู เดือดร้อนเรื่อง เงิน ทรัพย์] [กัมมะ กับ เสาร์ศุกร์คู่ศัตรู มีปัญหาเรื่องงาน เพราะ ของที่หาย คือ วีดีโอ เก็บงานไว้ในนั้น]
ความจริงมีเรื่องที่แฝงในดวง อยู่อีก คือ ดูกระทบฐานแบบ อาจารย์เจษฎา 5-2 มีเรื่องอ่านเพิ่ีมคือ ตามชาติเวร 5 คือ ทิศาปาโมกข์ 2 คือ ลูกสาว ถ้าดวงนี้เปํนชายให้ดูศัตรูที่ดาว 2 ถ้าดวงเป็นผู้หญิงให้ดูศัตรูที่ 5 ดวงนี้เปํนชายจึงดู 2

โจรก๊กนี้ทำงานเป็นทีม ตอนเจ้าของดวงจอดรถ ไว้ แล้วไปกดตังค์ ปรากฎว่า มีผู้หญิงไปขอแซงคิว แล้วทำเป็นกดผิด ถ่วงเวลาไว้กว่า 15 นาที เพื่อให้พวกงัดรถ ทำงานสะดวก ดาวที่ บ่งชี้คือ 2 โภคา-อริ-ทาสา-มหาอุบาทว์-ภริยัง แปลว่า หญิง [ฐานะไม่ดี ทาสา] [นิสัยชั่วร้าย -มหาอุบาทว์] [เป็นศัตรูหรือก่อปัญหา -อริ] [ทำให้เสียทรัพย์ -โภคา]

ดูจรเดือน แบบอาจารย์เจษฎา เดือน 5 ตรง อัตตะ-ตนุ-มรณะ-มหาโจร-อัตตา ฐาน 12 แปลได้ว่า [เจ้าของดวงจะพบกับความสูญเสีย-มรณะ] [โดยไม่คาดคิดหรือถูกโจรกรรม-มหาโจร] [เพราะ อุบัติเหตุหรือมิจฉาชีพ-ฐาน 12 ราหู]

ดูจรวัน แบบอาจารย์เจษฎา วันศุกร์ดูที่ มัชฌิมา 3 ฐาน 9 เริ่มอ่านจากฐาน 9 เหตุไม่คาดคิด-พระเกตุ เกี่ยวกับต่างเพศ-ปัตนิ รถยนต์-ดาวอังคาร [3 อยู่ใต้ 1 ฐานที่ 4 ตามอ่าน 1 เรือน มาตา-ปุตตะ-พยายะ เกืดการชำรุดเสียหาย-พยายะ] [1 กำลัง 6 อยู่ใต้ 2 ฐานที่ 4 ตามอ่าน 2 เรือน โภคา-อริ-ทาสา ทำให้เดือดร้อนเสียทรัพย์-อริ-โภคา] [2กำลัง15 อยู่ใต้ 5 ฐานที่ 4 เรือน หายนะ-กะดุมภะ-ศุภะ ตามอ่าน 5 เพราะการโจรกรรม-กะดุมภะ-หายนะ ทำให้มีคดีความหรือต้องแจ้งความ ศุภะ-หายนะ]

สำหรับผู้ที่สงสัยเรื่องการทายจร ระบบ ต่าง ๆ คงจะไม่นำไป กล่าวว่า วิธีนั้นดีหรือไม่ดี เพราะแนวทางที่ ครูอาจารย์คิดไว้ ย่อมเปํ็นเลิศในตัว อยู่ที่ความแตกฉานของผู้เรียนว่ามากน้อยแค่ไหน หลายคนอ่านบทความนี้ อาจจะ งง ถ้ายังใหม่ เช่น เจ็ดตัวเก้าฐาน เดิมจริง ๆๆ ไม่อ่านซิ่งจากฐานที่สี่ แต่ผู้เขียนเอามาประยุกต์ทาย ซึ่งจะใช้ไม่ใช้ก็ได้ อยู่ที่ความถนัด แต่อยากบอกว่า ผู้เขียนเอง อ่านตำราเล่มหนึ่ง ร่วม 10 จบ จึงเข้าใจเจตนาที่ ครูเขียนไว้ โดยเฉพาะตำรา ของอาจารย์ เชย บัวก้านทอง ที่ผู้เขียนนับถือว่า เป็นดั่งเพชร

การทายเลขเจ็ดตัว

หลักการทาย

* จำความหมายดาว 10 ดวงได้
* ผูกดวง จากวันเดือนปีเกิดได้
* จำเรือนชะตา ทั้ง 21 เรือนได้
* รู้จักธาตุ ของดาวแต่ละดวง
* ทายเรือนชะตาผสมเรือนชะตา
* ทายเรือนชะตาผสมดาว
* ทายเรือนชะตาผสมธาตุของดาว

ตัวอย่างดวงชะตา เกิดวัน พฤหัสบดี เดือน 11 ปี เถาะ

5….6….7….1….2….3….4
4….5….6….7….1….2….3
3….4….5….6….7….1….2
====================
12.15..18..14..10….6…9
====================

ในการทายนั้น ถ้าไม่มีหลักการทาย จะทำให้เราติดขัด ไม่รู้จะทายอะไร โดยเฉพาะผู้ที่หัดดูดวง ใหม่ ๆ ถ้าอยู่ต่อหน้า คนมาดูดวง จะ อึกอักพูดไม่ออก ในการทายนั้น เบื้องต้น ให้ทาย 5 เรื่อง ก่อน คือ

1. ตัวตนของเจ้าชะตา ใช้เรือน อัตตะ-ตนุ ในการทาย
2. การเงิน ใช้เรือน กะดุมพะ-ธานัง ในการทาย
3. การงาน ใช้เรือน การงาน-ลาภะ ในการทาย
4. ความรัก ชีวิตคู่ ใช้เรือน ปัตนิ ในการทาย
5. สุขภาพ ใช้เรือน พยายะ-มรณะ ในการทาย

จากดวงตัวอย่าง ดูตัวตนของเข้าชะตา คือ อัตตะ-ตนุ ถ้าเราสามารถเห็นรูปร่างหน้าตาของเจ้าของดวง ให้ ดูว่ารูปร่าง เจ้าของดวงตรงกับตำแหน่งใด เช่น ในดวงนี้ ตำแหน่งอัตตะเป็นดาว พฤหัสบดี (5) ลักษณะรูปร่างตามดาวคือ ขาวท้วม ดูภูมิฐาน อีกตัวคือตำแหน่ง ตนุ ในดวงนี้เป็นดาวพุธ (4) รูปร่างตามลักษณะดาวคือ มะขามข้อเดียว ไม่สูง อกเอวเท่ากัน หน้าตาดี ถ้าเจ้าของดวง มีรูปร่างแบบไหน แสดงว่าดาวดวงนั้นมีอิทธิพล ต่อเจ้าของดวงชะตามาก อย่างดวงนี้ เจ้าของดวงรูปร่าง ขาวท้วม ซึ่งตรงกับเรือนอัตตะ ดางพฤหัสบดี (5) สามารถทายได้ดังนี้

1. ทายเรือนผสมดาว อัตตะ+ดาวพฤหัส เจ้าของดวงเป็นคน ฉลาด สติปัญญาดี มีคุณธรรม ตามความหมายดาว
2. ทายเรือนผสมธาตุดาว อัตตะ+ธาตุดิน เจ้าของดวงเป็นคน สุขุม อารมณ์มั่นคง ตามธาตุของดาว
3. ทายเรือนผสมเรือน ในการทายผสมเรือนนั้น ถ้าคนที่เรียนใหม่ หรืออ่านตำราหลายเล่มอาจจะสับสนไม่รู้จะทายอย่งไร เพราะ ในดวงมีเรือนชะตาที่สัมพันธ์กันทั้ง สามเรือน บางอาจารย์ ก็ทายควบสามเรือนและแปลความหมายออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากถ้าประสบการณ์ไม่เพียงพอ จึงแนะนำให้ใช้เพียงสองเรือนผสมกัน

อย่างดวงนี้ สามารถผสมเรือนได้ สองคู่คือ อัตตะ-กะดุมพะ อัตตะ-ศุภะ ส่วน กะดุมภะ-ศุภะ เป็นเรื่องของ การเงินและวาสนา ไม่ใช่เรื่องตัวตนจึงไม่ทายในที่นี้ อย่าสับสน (อัตตะ-กะดุมภะ คือ มีโชคลาภ มีทรัพย์ การเงินดี) (อัตตะ-ศุภะ คือ มีวาสนาดี มีความเจริญ) ซึ่งจะเห็นว่าการทายแยกแบบนี้จะมองเห็นรูปดวงได้ชัดเจน สามารถที่จะประมวลคำพยากรณ์ได้ง่าย

ตัวอย่างดวงนี้ ถ้าดูอย่างครบกระบวนการ ก็สามารถทายได้ว่า เจ้าชะตา เป็นคน ปัญญาดีมีคุณธรรม ใจคอหนักแน่น มีวาสนาการเงินดี มีโชคลาภ แค่นี้ก็ได้รายละเอียดที่มากพอแล้ว ในระยะฝึกอ่านดวง ยังไม่ต้องไปคำนึงเรื่องความแม่นยำมาก ให้อ่านดวงออกก็พอ แค่เห็นตัวเลขที่ผูกดวง ก็สามารถตีความหมายออกมาได้ จึงจะถือว่าอ่านดวงออก ส่วนเรื่องความแม่นยำ ประสบการณ์จะสอนเราเองเมื่อดูดวงไป หลาย ๆ ดวง

ต่อมาลองมาดูเรื่องการงานบ้าง ในดวงนี้ การงานคือดาว ศุกร์ (6) ตกตำแหน่ง (กัมมะ-สหัสชะ คือ งานต้องพบปะผู้คน และมีการเดินทางไปติดต่อ)( กัมมะ-หายนะ คือ งาน เกี่ยวกับ อบายมุข การพนัน ตามความหมายของ หายนะ) สามารถทายได้ว่า การงานของเจ้าชะตา ต้องเกี่ยวข้องกับอบายมุข การพนัน และต้องพบปะผู้คนตลอดเวลา*** อย่าทายว่า การงานไม่เจริญตกต่ำ เอาดีไม่ได้ เหมือนหลายคนที่ทายแบบนี้เพราะเห็นกัมมะตกหายนะ จะผิดพลาดได้ ความจริงเจ้าของดวงมีอาชีพ ขายหวยใต้ดิน ซึ่งตรงตามลักษณะดวงชะตา และก็ขายดี ตามวาสนา ข้อแรก (อัตตะ-ศุภะ) ได้เงินเป็นกอบเป็นกำตามดวง (อัตตะ-กะดุมพะ)

ข้อต่อไปลองมาดูเรื่องการเงิน ในดวงนี้ตกตำแหน่ง (กะดุมพะ-อัตตะ คือ การเงินเกิดจากตัวเอง ความสามารถตัวเอง เรือนชะตาเดียวกับ [อัตตะ-กะดุมภะ] แต่ทายคนละอย่าง เพราะจุดของเรื่องราวคนละจุดกัน คือ ต้นทาง-ปลายทางไม่เหมือนกัน อย่าสับสน หลายคน ทายมั่วเพราะไม่จับจุด เรื่องราว ต้นทางปลายทาง) อีกตัวคือ (กะดุมพะ-ศุภะ คือ การเงินเกิดจากวาสนา บุญกุศล แต่ถ้าเป็น ศุภะ-กะดุมพะ จะทายว่า วาสนาความเจริญที่จะได้รับ เป็นเรื่อง การเงิน ทรัพย์สิน )

การทายต้องอย่าลืม ตั้งจุดทายให้ถูกต้องอย่าทายสับสนปนเป การทายดาวถ้าจะให้แตกฉาน ให้ใช้ดวงตัวเองดูก่อน เมื่อคล่องแล้วจึงใช้ของ พี่น้อง ญาติ หรือเพื่อน ๆ นาน ๆ เข้าจะชำนาญเอง และสามารถหาอ่านบทวิจารณ์ดวงเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไม่แนะนำให้เรียนโดยการท่องจำ การผสมเรือนต่าง ๆ เพราะจะทำให้ไม่แตกฉาน แต่ให้ใช้การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ดวงดาวและเรือนชะตา จะทำให้ประสบผลสำเร็จ

เกณฑ์เข้าโรงพยาบาล

ดวงนี้เกิด วันทร์จันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปี จอ (2/6/2501)

2….3….4….5….6….7….1
7….1….2….3….4….5….6
4….5….6….7….1….2….3
===================
13..9..12…15…11.14..10
===================

3 l 2 l 4

…l7l…

1l 5 l 6

กาลโยคประจำปี

ดวงนี้ เจ้าของดวง ได้มาดูดวงเมื่อช่วง ต้นเดือน มกราคม ปี 2552 อายุย่าง 51 ปี ดูในดวงตก เลข 1 ตำแหน่ง มัชฌิมา-กะดุมพะ-พยายะ ฐานที่สี่ 11 ราชาโชค กาลโยคจรตก มรณะ ในการดูนั้น ไม่ต้องไปดูให้ พิศดารอะไรมาก เหมือน ตำราหลายเล่มที่เขียน การดูดวงภาคพิศดาร ดูลึก สองชั้นสามชั้น เพราะทำให้สับสน โดยเฉพาะ ผู้เริ่มเรียนใหม่ ทำให้จับต้นชนปลายไม่ถูก ดูในเบื้องต้น ให้ดู เรือนเดียวก่อน ยังไม่ต้อง ดู ประกอบสองเรือนสามเรือน อย่างดวงนี้ ดูทีละเรือน ว่าตก ตำแหน่งอะไร ดี หรือ ร้าย เช่น ตกมัชฌิมา คือ อยู่ปานกลาง หรือท่ามกลาง ตก กะดุมพะ โชคดี คือได้เงิน ได้ทรัพย์ ตกพยายะ คือเจ็บป่วย ทางกาลโยค ตกมรณะ คือสูญเสีย แค่นี้เราก็รู้แล้วว่าดวงนี้ มีเรื่อง ดีคือ มีทรัพย์ ได้เงิน มีโชค ด้านไม่ดีคือ สูญเสีย เจ็บป่วย  ฐานบวก 11 ราชาโชค แปล่า ง่ายดาย สะดวกสบาย เมื่อนำไปผสมกับความหมาย ก่อนหน้า คือ ดวงนี้ จะมีโชคลาภ ได้ทรัพย์สินเงินทองง่าย ๆ ทางไม่ดี คือจะเจ็บป่วย พบกับความสูญเสีย อย่างง่ายดาย ไม่คาดคิด

ดวงนี้ตอนมาดูผมบอกว่าจะเข้าโรงพยาบาลกะทันหันโดยไม่ตั้งตัว บางคนอาจสงสัยว่าเอาอะไรมาทาย ที่จริงก็ง่าย ๆ คือ ตำแหน่งมรณะทางกาลโยค แปลถึงสถานที่ คือ โรงพยาบาล ที่รักษาคนเจ็บป่วย ส่วนเรือน พยายะ ในดวงเลขเจ็ดตัวก็หมายถึง เจ็บป่วย ส่วนฐานที่สี่ 11 ราชาโชค คือ ง่ายดาย ไม่ทันตั้งตัว ปรากฎว่าตอนดูดวงเจ้าของดวง บอกว่าไม่น่าจะเจ็บป่วยเพราะระวังตัวดี อยู่มาตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ เกิดเหยียบ เศษแก้ว ไม่ยอมไปหาหมอ จนเนื้อเน่า ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อ ผ่าตัดทำแผล

ผูกดวงเลข 7 ตัว

เกริ่นนำ

การพยากรณ์ ด้วยเลขเจ็ดตัวนับเป็นวิชาที่เรียนเข้าใจง่ายกว่า วิชาผูกดวงชั้นสูงอย่าง ดวงราศีจักร แต่ความแม่นยำ ถือว่าไม่น้อยหน้ากัน สำหรับผู้เริ่มศึกษาดูดวงใหม่ ๆ มักจะคิดว่าเลขเจ็ดตัวเป็นวิชาพื้น ๆ สู้โหราศาสตร์ไม่ได้ บางคนถึงกับยกย่องโหราศาสตร์ต่างประเทศ ว่าดีกว่า แต่ผมเชื่อว่า สุดท้ายเมื่อถึงทางตันในการพยากรณ์ เกือบทุกคนต้องหันมาจับวิชาเลข 7 ตัวจนได้ บางอย่างโหราศาสตร์ก็ดูได้ละเอียดดี แต่บางครั้งเลข 7 ตัวก็ดูได้ดีกว่า เพียงแต่เลขเจ็ดตัว ผู้ดูต้องรอบรู้วิชา เบ็ดเตล็ด หลายอย่าง เช่น ทักษา กาลโยค ดาวเสวยอายุ การจับยาม

แรกเริ่มผม ก็ตามกระแสด้วยการเรียนโหราศาสตร์ ดวงราศีจักร ดวงนวางค์จักร อินทภาสบาทจันทร์ แต่มีความรำคาญเรื่อง ต้องมีเวลาเกิดที่แน่นอน ถึงแม้จะดูโดยไม่ใช้เวลาเกิดได้ แต่ผมว่าเล็ขเจ็ดตัวมีความยืดหยุ่นกว่าหากดูโดยไม่ใช้เวลาเกิดที่แน่นอน ได้ทดลองหลายศาสตร์จนค้นพบว่า ตัวเองถูกโฉลกกับ วิชาเลขเจ็ดตัว ประกอบมหาทักษาเสวยอายุ ทักษาไทย และกาลโยคแบบพม่า ซึ่งผมคิดว่า คนแต่ละคนมีพรสวรรค์ไม่เหมือนกัน

บางคนเรียนโหราศาสตร์จนเชี่ยวชาญในหลักวิชา แต่พยากรณ์จริงกับไม่ได้ผลเท่าที่ควร บางคนใช้เลขเจ็ดตัวพยากรณ์กับไม่แม่นยำเหมือนโหราศาสตร์ราศีจักร บางคนแค่จับยามก็ดูได้แม่นยำพิศดาร เหตุที่ผมกลับมาเรียนเลขเจ็ดตัวส่วนหนึ่งเพราะความทึ่งในตัวหมอดูชาวบ้านธรรมดา มีคนมาขอให้ทายเรื่องคนจมน้ำหาศพไม่เจอ เขาบอกว่าอีกสามวันให้ไปรอที่ใต้น้ำถัดไปสองหมู่บ้าน ปรากฎว่าศพขึ้นตรงตามที่บอกจริง ๆ ผมไม่ทราบว่าเขาใช้อะไรทายแต่คิดว่าน่าจะเป็นการจับยาม ประกอบเลขเจ็ดตัว เพราะหมอดูคนนี้ดูเล็ขเจ็ดตัวเป็นหลัก

เกริ่นตั้งยืดยาวที่จริงก็เล่าสู่กันฟัง ต่อมาเป็นเรื่องของการผูกดวงด้วยเลข 7 ตัว จะไม่อธิบายละเอียดมากเอาแต่ที่สำคัญโดยการดูดวงระบบนี้มีหลักที่ต้องสนใจอยู่สามข้อคือ

1. ต้องรู้จักความหมายดาวเป็นอย่างดี ในระยะเริ่มแรกให้จำความหมายจำเพาะดาวก่อน ส่วนอื่นก็อ่านเพิ่มเติมทีหลัง

2. ต้องผูกดวงเป็น โดยอาศัย วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดเพื่อจะดูว่าเกิดวันไหนแน่ การกำหนดวันเกิดต้องใช้หลักโบราณคือ ถือเวลา รุ่งเช้าเป็นวันใหม่ ประมาณหกโมงเช้า ไม่ใช่เวลาเที่ยงคืนเหมือนที่ทางสากลใช้ คนที่เกิดช่วงเวลา 00.01-05.59 ถือเป็นวันเก่าแม้ทางราชการจะแจ้งในใบเกิดเป็นวันใหม่แล้ว แต่ไม่สามารถใช้กับการดูดวงได้เพราะอาจทำให้การดูดวงผิดไปคนละเรื่องเลย ที่สำคัญการตั้งชื่ออาจทำให้มีอักษรกาลกิณีโดยไม่ตั้งใจ สมมุติว่า เกิดเวลา 03.25 น. ซึ่งทางราชการลงวันเกิดไว้เป็นวัน อาทิตย์ ในการดูดวงจะยังคงเป็นวันเสาร์อยู่เพราะยังไม่ถึงหกโมงเช้านั่นเอง

3. การทายดวงกำเนิดหรือพื้นดวง และ การทายอนาคตหรือดวงจร

วิธีการผูกดวงการผูกดวง

ในการผูกดวงต้องมีปฏิทิน 100 ปี หรือ 150 ปี ก็ได้เพื่อจะดู ค่ำแรม วันเกิด ที่แน่นอนซึ่งสามารถหาซื้อตามร้านหนังสือชั้นนำหรือ ร้านเขษมบรรณกิจที่จำหน่ายตำราดูดวงโดยเฉพาะ ซึ่งการผูกดวงประกอบไปด้วย

หลักวันเกิด [อาทิตย์ ถึงวัน เสาร์]

วันอาทิตย์เรียงเลข     1  2  3  4  5  6  7

วันจันทร์เรียงเลข       2  3  4  5  6  7  1

วันอังคารเรียงเลข       3  4  5  6  7  1  2

วันพุธเรียงเลข           4  5  6  7  1  2  3

วันพฤหัสบดีเรียงเลข   5  6  7  1  2  3  4

วันศุกร์เรียงเลข          6  7  1  2  3  4  5

วันเสาร์เรียงเลข          7  1  2  3  4  5  6

หลักเดิอนเกิด [ใช้เดือนไทย จากเดิอนอ้าย เดือนยี่......ไปจนถึงเดือน 12 ]

เดือน อ้ายและเดือนแปด เรียงเลข    1  2  3  4  5  6  7

เดือน ยี่และเดือนเก้า เรียงเลข         2  3  4  5  6  7  1

เดือน สามและเดือนสิบ เรียงเลข      3  4  5  6  7  1  2

เดือน สี่และเดือนสิบเอ็ด เรียงเลข     4  5  6  7  1  2  3

เดือน ห้าและเดือนสิบสอง เรียงเลข   5  6  7  1  2  3  4

เดือน หก เรียงเลข                       6  7  1  2  3  4  5

เดือน เจ็ด เรียงเลข                       7  1  2  3  4  5  6

หลักปีเกิด [ใช้ปีนักษัตริย์แบบไทยคือ ชวด ถึง กุน]

ปีชวดกับปีมะแม เรียงเลข             1 2 3 4 5 6 7

ปีฉลูกับปีวอก เรียงเลข                2 3 4 5 6 7 1

ปีขาลกับปีระกา เรียงเลข              3 4 5 6 7 1 2

ปีเถาะกับปีจอ เรียงเลข                4 5 6 7 1 2 3

ปีมะโรงกับปีกุน เรียงเลข               5 6 7 1 2 3 4

ปีมะเส็ง เรียงเลข                        6 7 1 2 3 4 5

ปีมะเมีย เรียงเลข                         7 1 2 3 4 5 6

เมื่อรู้วิธีเรียงเลขประจำหลัก วันเดือนปี ต่อมาก็นำมาผูกดวง และเทียบกับเรือนชะตาดังตัวอย่าง ดวงนี้ เกิดวัน อาทิตย์ เดือน 4 ปีขาล เวลา 07.15 น. ถือเป็นวันอาทิตย์เพราะเลยหกโมงเช้าแล้ว ผูกดวงได้ดังนี้

1

2

3

4

5

6

7

4

5

6

7

1

2

3

3

4

5

6

7

1

2

เมื่อผูกดวงแล้วยังไม่สามารถทายได้ ต้องรู้จักเรือนชะตาเสียก่อน ดังตัวอย่าง

อัตตะ

หินนะ

ธานัง

ปิตา

มาตา

โภคา

มัชฌิมา

ตนุ

กะดุมพะ

สหัชชะ

พันธุ

ปุตตะ

อริ

ปัตนิ

มรณะ

ศุภะ

กัมมะ

ลาภะ

พยายะ

ทาสา

ทาสี

 เปรียบเทียบเรือนชะตา กับดาว

อัตตะ

1

หินนะ

2

ธานัง

3

ปิตา

4

มาตา

5

โภคา

6

มัชฌิมา

7

ตนุ

4

กะดุมพะ

5

สหัชชะ

5

พันธุ

6

ปุตตะ

7

อริ

1

ปัตนิ

2

มรณะ

3

ศุภะ

4

กัมมะ

5

ลาภะ

6

พยายะ

7

ทาสา

1

ทาสี

2

 

ก่อนทายต้องรู้จัก ดวงดาว ที่ใช้สัญญลักษณ์แทนด้วยตัวเลข และความหมายเรือนชะตาเพื่อใช้ประกอบทาย ในเลขเจ็ดตัว ใข้ดาวเพียง 7 ดวงเท่านั้น แต่ถ้าใช้ ทักษา ประกอบทาย หรือ ใช้ฐานที่สี่ พยากรณ์ด้วย ก็ใช้ ดาวราหู ดาวเกตุ ทายด้วย ให้อ่านความหมายได้จากหัวข้อ ดวงดาว

ดาวอาทิตย์ แทนด้วยเลข 1

ดาวจันทร์ แทนด้วยเลข 2

ดาวอังคาร แทนด้วยเลข 3

ดาวพุธ แทนด้วยเลข 4

ดาวพฤหัสบดี แทนด้วยเลข 5

ดาวศุกร์ แทนด้วยเลข 6

ดาวเสาร์ แทนด้วยเลข 7

ดาวราหู แทนด้วยเลข 8

ดาวเกตุ แทนด้วยเลข 9

ดาวมฤตยู แทนด้วยเลข 0

ต่อไปมาดูความหมาย เรือนชะตา ทั้ง 21 เรือน

ความหมายหลัก วัน

อัตตะ- ตัวตน ยึดมั่น

หินะ-ตกอับ หายนะ อบายมุข

ธานัง-เงินเก็บ เงินฝาก

ปิตา-พ่อ ผู้ใหญ่ที่เป็นชาย

มาตา-แม่ ผู้ใหญ่หญิง

โภคา บ้านที่ดิน ไร่นา

มัชฌิมา ไม่มากไม่น้อย พอประมาณ กลาง ๆ

ความหมายหลักเดือน

ตนุ-ตัวเรา

กะดุมพะ-เงิน ทอง เครื่องประดับของมีค่า

สหัสชะ-พบปะติดต่อ เพื่อน เดินทาง

พันธุ-ครอบครัว ญาติ บ้านที่ดิน รถ

ปุตตะ-บุตร ลูกน้อง การเริ่มต้น การเสี่ยง

อริ-ศัตรู ปัญญหาอุปสรรค

ปัตตะนิ-คู่ครอง หุ้นส่วน ชีวิตรัก

ความหมายหลักปี

มรณะ-เจ็บป่วย สูญเสีย เก่า ตำหนิ

ศุภะ-วาสนา ความเจริญ ต่างประเทศ เดินทางไกล

กัมมะ-การงาน ภาระ การเรียน

ลาภะ-โชคลาภ รายได้

พยายะ-โรคภัย ไม่สมบูรณ์

ทาสา-คนใช้ชาย อาสารับใช้

ทาสี-คนใช้หญิง การอาสารับใช้

ความหมายเรือนชะตานั้น สามารถทายได้ กว้างขวางอยู่ที่ศิลปะการทาย แต่ต้องอยู่ในขอบเขตเนื้อหาหลักของเรือนชะตา

Free Web Hosting